บทนำ

ยินดีต้อนรับทุกคนสู่เว็บบอร์ดแห่งนวัตกรรมค่ะ เว็บบล๊อกนี้ได้รวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในด้านต่าง ๆ ดิชั้นหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาและผู้สนใจทั่วไป ขอเชิญผู้เยี่ยมชมทุกท่านร่วมแสดงและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ trend ใหม่ ๆ ในโลกแห่งนวัตกรรมนี้ด้วยนะคะ

หมายเหตุ : ทุกเรื่องใน blog ยกเว้น "นั่งแท็กซี่อย่างสบายใจ...IT ช่วยได้" ขอเปลี่ยนจากคำว่า "เขียนโดย Fuangfar Pensiri" เป็น "นำเสนอโดย Fuangfar Pensiri" เนื่องจากคำว่า "เขียนโดย" เป็น default ของ blog ค่ะ จึงไม่สามารถเปลี่ยนที่ตำแหน่งนั้นได้

วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553

นั่งแท็กซี่อย่างสบายใจ…IT ช่วยได้

ที่มา/ปัญหา:

หลักปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานทั่วโลก เมื่อผู้บริโภคเมื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการใด จะต้องได้รับ ใบเสร็จรับเงินเพื่อยืนยันการจ่ายเงินอย่างถูกต้อง ประเทศไทยก็เป็นเช่นนั้น แต่ใบเสร็จรับเงินในการใช้บริการคมนาคมไทยหลายประเภท เช่นมอเตอร์ไซด์รับจ้าง,รถสองแถวเล็กให้บริการในซอย,รถเมล์แดง อ.เมือง จ.เชียงใหม่,รถแท็กซี่ ยังไม่มีตั๋วหรือใบเสร็จรับเงิน ในที่นี่จะกล่าวเฉพาะรถแท็กซี่ ซึ่งระบบการให้บริการแท็กซี่นับได้เป็น เครือข่ายที่ใหญ่ มีบริษัทผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการ และมีคนขับรถจำนวนมาก

ปัญหาและข้อร้องเรียนของการให้บริการของรถแท็กซี่ที่ผ่านรายการวิทยุ มีมากมาย หรือเรื่องเล่าจากประสบการณ์ ที่บันทึกลงในเว็บไซด์ต่างๆ ก็มากเช่นกัน เรียกติดปากว่า “ภัยแท็กซี่” หรือ “มหันตภัยแท็กซี่” ซึ่งมักเป็นอาชญากรรมที่เกิดจากการให้บริการของรถแท็กซี่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาแก้ไขสักระยะ หากช่วยกันเอาจริงเอาจัง ในการดำเนินการแก้ปัญหา มั่นใจว่าสังคมจะสงบสุขและน่าอยู่ขึ้น

วิธีแก้ไขดำเนินการ:


1. ติดตั้งพร้อมเครื่องออกใบเสร็จในรถแท็กซี่แบบอัตโนมัติ (link เข้ากับ meter ที่มีอยู่เดิม) คล้ายกับการออกใบเสร็จที่เคาน์เตอร์ของแคชเชียร์ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ
2. ในใบเสร็จบรรจุข้อมูล ชื่อสหกรณ์แท็กซี่ เบอร์โทรศัพท์ ทะเบียนรถ เวลาขึ้น-ลงรถ ระยะทางที่ใช้บริการ ค่าโดยสารที่จ่ายไป ชื่อผู้ขับรถ (อาจเขียนหรือเซ็น หลังจากพิมพ์ใบเสร็จออกมาแล้ว)
3. ติดรหัส QR code ที่บรรจุข้อมูลในข้อ 2. (ยกเว้นระยะทางและค่าโดยสาร) ไว้ที่ด้านหลังของพนักพิง ของเบาะคู่หน้า เพื่อให้ผู้ใช้บริการแท็กซี่ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพไว้ ทันทีที่ขึ้นรถ (สำหรับตรวจสอบความตรงกันของข้อมูล โดยนำข้อมูลที่บันทึกในรูปแบบ QR Code นี้ไปเทียบกับข้อมูลในใบเสร็จรับเงินอีกครั้งหนึ่ง)

(สำหรับข้อ 3 ทำเป็นโครงการต่อเนื่องได้ในอนาคตเพื่อป้องกันภัย/แจ้งภัย/ช่วยเหลือ ผู้ประสบเหตุได้ทันที ดังนี้…

* ติดตั้งระบบ RFID ไว้ที่ตัวรถ (โดยไม่ให้ผู้ขับรถถอดเองได้)
* เมื่อผู้ใช้บริการถ่ายภาพรหัส QR code แล้ว ตลอดเวลาที่นั่งในรถ จะต้องถือโทรศัพท์ไว้ พร้อมที่จะกดปุ่ม send (ไปยังหมายเลขด่วน) ข้อมูลนี้ไปยังศูนย์แจ้งภัยเช่นเมื่อรู้สึกเวียนหัว ขยับตัวไม่ได้ ไม่มีแรงหรือ คนขับรถมีพฤติกรรมการขับรถและใช้คำพูดผิดปกติจนไม่สามารถเจรจาได้ หรือขับรถเข้าไปในที่อโคจร หรือชักมีด/ปืน ออกมา ฯ
* ศูนย์แจ้งภัยฯ หาสัญญาณตำแหน่งรถจาก GPS โดยได้รับข้อมูลของรถจาก RFID tag
* เมื่อได้แล้วแจ้งด่วนไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่ ตำรวจในพื้นที่จะเข้าตรวจสอบรถแท็กซี่คันดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว
* การที่ผู้ใช้บริการจะสามารถส่งภาพ QR code ด่วนหรือแจ้งความด่วนได้ จะต้องใช้ sim โทรศัพท์แบบลงทะเบียน เพื่อระบบคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์ฯ จะตรวจสอบตัวตนของผู้แจ้งได้)

ผลที่น่าจะเกิดขึ้น:

1. นอกจากการมีใบเสร็จรับเงิน หมายถึงการมีเอกสารยืนยันในการใช้จ่ายเงินอย่างถูกต้อง สามารถนำไปใช้เพื่อการอ้างอิงในภายหลัง หากเกิดปัญหาอื่นที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่นลืมของไว้ในรถ สามารถติดตามได้ง่ายจากข้อมูลรถในใบเสร็จรับเงิน หรือไม่ได้มีปัญหาใด แต่ต้องการใช้บริการรถแท็กซี่คันนั้นอีก
2. ผู้บริโภคสามารถเก็บใบเสร็จไว้เป็นข้อมูล เพื่อนำมาเปรียบเทียบหรือนำมาคำนวณทางสถิติ เพื่อ monitor อัตราค่าโดยสารได้ จากข้อมูลระยะทาง เวลารวมที่ใช้บริการ ค่าโดยสารที่จ่ายไป
3. ผู้บริโภคควรเก็บใบเสร็จไว้ระยะเวลาหนึ่ง ทางราชการอาจร้องขอข้อมูลในใบ เสร็จนั้น เพื่อใช้ในการติดตามพฤติกรรม และติดตามตัว (Tracking) ผู้ขับรถแท็กซี่ หากผู้ขับรถแท็กซี่เคยลงมือปฏิบัติการในลักษณะมิจฉาชีพ
4. การมีมาตรการป้องกันภัยฯ จะช่วยป้องปรามการกระทำผิด ช่วยลดความรุนแรงหรือลดจำนวนอาชญากรรมได้

หมายเหตุ/อื่นๆ:

ผู้ขับรถแท็กซี่ที่หากินโดยสุจริต จะไม่ได้รับผลกระทบทางลบใดจากโครงการนี้


แผนภาพแสดงการติดต่อสื่อสารระหว่างจุดต่างๆ ด้วยเทคโนโลยี GPS, RFID และ QR code ผ่านโครงข่ายโทรคมนาคมที่มีอยู่



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น